อ่านก่อนโดนหลอก! รีวิวบาคาร่า Pantip

รีวิวบาคาร่า Pantip เป็นหัวข้อกระทู้ยอดนิยมที่อาจจะเคยผ่านหูผ่านตาใครหลาย ๆ คน บาคาร่า เกมพนันไพ่ออนไลน์ ที่คุ้นเคยกับ บาคาร่าออนไลน์ หรือคนที่อยากจะลองเล่นเกมประเภทนี้ เพราะอย่างที่รู้ ๆ กันว่า หากมีข้อสงสัย หาคำตอบไม่ได้ ไม่ว่าจะ นั่งคิด นอนคิด ยืนคิด ก็แล้วแต่ยังคิดไม่ตกเสียที การเข้ากระทู้รีวิวบาคาร่า Pantip เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันของคนในโลกออนไลน์นั่นเอง

รีวิวบาคาร่า Pantip 1

แต่ก็เป็นเรื่องปกติของสังคมออนไลน์ หรือกลุ่มสังคมที่มีคนมากมายเข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดกัน ก็จะมีทั้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ข้อมูลที่ไม่เป็นประโยชน์ มีทั้งเรื่องจริง มีทั้งเรื่องโกหกปะปนกันไป ซึ่งหลายครั้งที่มีเหยื่อโดนหลอกจากสังคมออนไลน์ หรือกระทู้รีวิวบาคาร่า Pantip ได้เช่นเดียวกัน

อ่านรีวิวบาคาร่า Pantip อย่างไรไม่ให้โดนหลอก

1. เปิดรับ

การเปิดรับ หรือก็คือการใช้หลักเหตุผลและประสาทสัมผัสต่าง ๆ ทั้งการฟัง การอ่าน การมอง ความรู้สึก เพื่อพิจารณา และวิเคราะห์สื่อ หรือข้อความในรีวิวบาคาร่า Pantip ว่ามีความสมเหตุสมผล หรือมีประโยชน์ต่อตัวเราเองมากแค่ไหน

2. วิเคราะห์

การวิเคราะห์ในกรณีนี้ ก็คือการแยกแยะจุดประสงค์ของรีวิวบาคาร่า Pantip หรือคอมเมนต์ในรีวิวบาคาร่า Pantip นั้น ๆ ว่ามีเป้าหมายหรือจุดประสงค์ในการสร้างเนื้อหาขึ้นมาเพื่ออะไร เช่น ถ้าเราอ่านรีวิวบาคาร่า Pantip ก็ต้องพิจารณาว่าเป็นการสร้างกระทู้เพื่อเรียกกระแส หรือเรียกคะแนนความน่าสงสารหรือเปล่า

เนื่องจากมีหลายครั้งที่มิจฉาชีพจะแฝงตัวเข้ามา ทำเป็นว่าตนเองกำลังพบเจอปัญหา หมดตัว หรือหมดหนทาง ในรีวิวบาคาร่า Pantip แล้วก็ใช้เหตุผลนี้เรียกรับเงินบริจาคนั่นเอง แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนหรือทุกกระทู้จะเป็นแบบนี้ไปเสียหมด ดังนั้นเราจึงต้องวิเคราะห์แล้วพิจารณาดูเอาเองว่ารีวิวบาคาร่า Pantip กระทู้ไหนเชื่อได้ กระทู้ไหนไม่ควรเชื่อ

3. ทำความเข้าใจ

การทำความเข้าใจนอกจากจะเป็นการทำความเข้าใจในเนื้อหาของรีวิวบาคาร่า Pantip แล้ว ยังต้องทำความเข้าใจในธรรมชาติของสื่อโซเชียลที่อยู่ในรูปแบบสังคมออนไลน์ด้วย

ดังนั้นผู้ที่เข้าไปอ่านรีวิวบาคาร่า Pantip จะต้องทำความเข้าใจด้วยว่า การที่พื้นที่ออนไลน์เปิดโอกาสให้ใครก็ได้ สามารถสร้างเนื้อหาด้วยตนเองโดยไม่มีการควบคุมหรือตรวจสอบอย่างถูกต้อง ก็มีโอกาสที่ข้อมูลนั้นอาจจะผิดพลาดไปบ้างนั่นเอง ดังนั้นการหาข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้ให้บริการโดยตรง จะสามารถตรวจสอบหรือสอบถามรายละเอียดเชิงลึกได้แม่นยำกว่าการอ่านจากรีวิวบาคาร่า Pantip เพียงอย่างเดียว

4. ประเมินค่าบาคาร่า

หลังการวิเคราะห์เกี่ยวกับสื่อนั้น ๆ แล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการประเมินว่าข้อความหรือรีวิวบาคาร่า Pantip นั้น ๆ ว่ามีคุณค่า หรือมีประโยชน์ในการนำมาปรับใช้มาก-น้อยเพียงไหน เพราะถ้ารีวิวบาคาร่า Pantip กระทู้นั้นไม่มีประโยชน์ ก็ไม่ควรไปเสียเวลาอ่านนั่นเอง

รีวิวบาคาร่า Pantip 2

ข้อดีที่ควรมีของรีวิวบาคาร่าPantip

  • ทำให้รู้ข้อมูลเบื้องต้น
  • เป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยเรื่องการตัดสินใจ
  • ไม่ใช้ภาษาหยาบคาย
  • ไม่หลอกลวง
  • จัดทำเนื้อหาเพื่อประโยชน์ของผู้อ่าน
  • การใช้สื่อให้เกิดประโยชน์

เพราะสื่อสังคมออนไลน์หรือรีวิวบาคาร่า Pantip เป็นช่องทางหนึ่งที่เปิดกว้างมาก ๆ และอาจจะยากต่อการควบคุม เพราะหากผู้ใช้งานขาดวิจารณญาณ ก็อาจจะเป็นหนทางที่นำพาไปสู่การถูกล่อลวงได้ง่าย ๆ ดังนั้นรีวิวบาคาร่า Pantip ที่ดีก็ไม่ควรใช้ข้อความที่รุนแรงในการแสดงความคิดเห็น รวมทั้งไม่แสดงข้อความที่บ่งบอกถึงการยุแยงปลุกปั่นให้เกิดการโต้แย้ง หรือเกิดความเกลียดชังต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่ควรใช้ข้อความที่ทำให้เกิดประโยชน์ เช่น บทความแนะนำการเล่นเรื่อง 5 วิธีการเตรียมตัว ก่อนการเล่นบาคาร่าออนไลน์ ไทย เป็นต้น

วิธีเล่น Baccarat (บาคาร่า) เกมออนไลน์ยอดฮิตระดับโลก

เกม Baccarat (บาคาร่า) นั้นเกิดขึ้นจากแนวความคิดของคนอิตาลี ซึ่งก็ได้แนวคิดมาจาก พิธีกรรมโบราณ ที่ค้นหาหญิงสาวเพื่อที่จะมารับตำแหน่งนักบวชในศาสนาต่อไป และมันเกิดมานานมากกว่า 1500 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งวิธีการเสี่ยงทายนั้นก็คือ การที่ให้หญิงสาวที่ถูกเลือกนั้นมาทอยลูกเต๋า หากใครที่ได้แต้มที่มีค่า 8 – 9 แต้ม พวกเขาก็จะได้รับการบูชาเป็นเทพเจ้า หากทอยได้ 6 – 7 แต้ม จะไม่ได้รับการเลือก และหากทอยได้ 4 – 5 แต้ม อาจจะทำให้เขานั้นจบชีวิตลงก็ได้ มันจึงทำให้เรานั้นรู้ว่าบาคาร่านั้นมันมีความเป็นมาที่ยาวนานมาก เพราะจากอดีตที่บาคาร่านั้นเกิดมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นเวลา 3,518 ปีเลยทีเดียวครับ

บาคาร่าเป็นเกมไพ่ชนิดหนึ่งที่มีลักษณะการเล่นที่คล้ายกับป๊อกเด้งอย่างมาก โดยจะแบ่งออกเป็นสองฝั่งได้แก่ ฝั่งเจ้ามือ (BANKER) และฝั่งผู้เล่น (PLAYER) การเล่นจะทำการแจกไพ่ให้ฝั่งละ 2 ใบ และจะสามารถเรียกไพ่เพิ่มได้อีก 1 ใบ หากแต้มไม่ถึง 5 แต้มตามกฎการจั่วไพ่ และหากฝั่งไหนมีแต้มเยอะกว่าก็จะชนะไปทันที ซึ่งแต้มสูงสุดของเกมไพ่บาคาร่าเท่ากับ 9 แต้ม

วิธีเล่น Baccarat

1. ขั้นตอนแรกต้องไปยังเข้าเว็บไซต์คาสิโนออนไลน์ เลือกห้องเดิมพัน เพื่อเข้าเล่นเดิมพัน Baccarat (บาคาร่าออนไลน์)

2. หลังจากเข้าห้องเดิมพันทางเว็บไซต์จะกำหนดเวลาให้ผู้เล่นได้เลือกลงการเดิมพันประมาณ 25 วินาที

3. เมื่อหมดเวลาในการลงเดิมพัน ดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่โดยจะแจกให้ฝั่งละ 2 ใบ ถ้าไพ่ 2 ใบแรกมีแต้มรวมกันระหว่าง 1-5 แต้ม หรือเข้าเงื่อนไขของการแจกไพ่ใบที่ 3 ดีลเลอร์จะแจกไพ่ใบที่ 3 ให้ทันที

4. เมื่อเปิดไพ่ครบทั้ง 2 ฝั่งแล้ว ฝั่งไหนที่มีแต้มมากกว่าก็จะเป็นฝั่งที่ชนะการเดิมพัน

กติกาการเล่น

บาคาร่าจะมีวิธีการเล่นที่คล้ายกับไพ่ป๊อกเด้ง แต่ผู้เล่นจะไม่สามารถเป็นคนลุ้นไพ่ได้เอง และไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะเรียกไพ่ใบที่ 3 เพิ่มหรือไม่ เพราะว่าไพ่บาคาร่าจะมีดีลเลอร์ที่ทำการแจกแบบหงายไพ่ทั้ง 2 ฝั่ง และทำการเรียกไพ่ใบที่สามตามกฎกติกาของเกม ดังนั้นผู้เล่นจะสามารถทำได้แค่เลือกพนันว่าฝั่งใดจะเป็นผู้ชนะ ด้วยวิธีการวางเงินเดิมพันลงไปยังตำแหน่งผู้เล่นนั้นที่ต้องการเท่านั้น

การแจกไพ่

การแจกไพ่นั้นมันก็มีข้อกำหนดของมัน เพราะว่าในการเล่นเกมแต่ละครั้ง ดีลเลอร์จะแจกไพ่เพียงสองฝั่งเท่านั้น ก็คือฝั่งเจ้ามือ (BANKER) และก็ฝั่งผู้เล่น (PLAYER) ที่ท่านนั้นสามารถเดิมพันได้ โดยแต่ละฝั่งจะได้รับไพ่จำนวน 2 ใบเท่ากัน เมื่อท่านนั้นได้รับไพ่ไปแล้ว 2 ใบ การที่ท่านจะสามารถขอรับใบที่ 3 ได้มันก็มีเงื่อนไขอีกด้วย

การหักเงิน

การหักเงินในเกมสามารถหักได้ 2 รูปแบบ นั้นก็คือการหักค่าคอมมิชชั่น 5% และไม่หักเลย สำหรับการหัก 5% นั้นจะเกิดขึ้นเมื่อท่านนั้นวางเดิมพันในฝั่งเจ้ามือ (BANKER) นั่นเองครับ และการไม่หักเงิน ก็คือการที่ท่านนั้นวางเดิมพันในฝั่งของผู้เล่น (PLAYER)

การนับแต้ม

การนับแต้มของบาคาร่านั้นก็ง่ายมาก ๆ เพียงท่านนั้นดูเลขจากหน้าไพ่ที่ท่านได้รับไป จำนวนแต้มของไพ่แต่ละใบก็ตรงกับหน้าไพ่ แต่หากเป็น A จะนับเป็น 1 แต้ม และถ้าหากเป็นตัวภาษาอังกฤษอย่างเช่น J , Q , K ก็จะนับเป็น 0 แต้ม โดยใครที่ได้แต้มใกล้เคียงกับ 9 ที่สุดจะเป็นฝั่งชนะเดิมพัน

การนับแต้มของเกมบาคาร่าออนไลน์แต่ละฝั่งคือ ตัวเลขตัวสุดท้ายของผลบวกของไพ่ทั้งหมดในมือ ดังนั้น ฝั่งที่ถือไพ่ 10 กับ 7 ก็จะมีแต้ม 7 (เพราะ 10 + 7 = 17) ทั้งนี้เพราะไพ่ 10 แต้ม และ ไพ่ฝรั่งจะนับค่าเท่ากับ 0 แต้ม และนับเฉพาะตัวเลขหลักสุดท้ายเท่านั้น ดังนั้นไพ่ในหลักสิบจึงมีค่าเท่ากับ 0 นั่นเอง

รีวิวบาคาร่า Pantip 3

รูปแบบการเลือกเดิมพัน และอัตราการจ่ายเงิน

ตำแหน่งการวางเดิมพันเกมบาคาร่าออนไลน์จะมี 19 รูปแบบด้วยกัน ซึ่งอัตราการจ่ายเงินรางวัลจะแตกต่างกัน ดังนี้

  • ลงเดิมพันตำแหน่งผู้เล่น (PLAYER) คือการลงเดิมพันว่าฝั่งผู้เล่น หรือฝั่งสีน้ำเงินจะเป็นฝั่งที่ชนะการเดิมพัน อัตราการจ่ายเงินรางวัล 1 : 1 เท่าของยอดเดิมพัน

ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันฝั่งผู้เล่น (PLAYER) 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 200 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

  • ลงเดิมพันตำแหน่งเจ้ามือ (BANKER) คือการลงเดิมพันว่าฝั่งเจ้ามือ หรือฝั่งสีแดงจะเป็นฝั่งที่ชนะการเดิมพัน อัตราการจ่ายเงินรางวัล 1 : 0.95 เท่าของยอดเดิมพัน

ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันฝั่งเจ้ามือ (BANKER) 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 195 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

  • ลงเดิมพันตำแหน่งเสมอ (TIE) คือการลงเดิมพันว่าทั้งสองฝั่งจะมีแต้มเท่ากัน หรือเสมอกันนั่นเองครับ อัตราการจ่ายเงินรางวัล 1 : 8 เท่าของยอดเดิมพัน

ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันเสมอ (TIE) 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 900 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

  • ลงเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ของผู้เล่น คือการเดิมพันว่าไพ่ 2 ใบแรกของฝั่งผู้เล่น (PLAYER) จะเป็นไพ่หน้าเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น ฝั่งผู้เล่นได้รับไพ่เลข 5 จำนวน 2 ใบ อัตราการจ่ายเงินรางวัล 1 : 11 เท่าของยอดเดิมพัน

ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันไพ่คู่ของผู้เล่น 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 1,200 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

  • ลงเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ของเจ้ามือ คือการเดิมพันว่าไพ่ 2 ใบแรกของฝั่งเจ้ามือ (BANKER) จะเป็นไพ่หน้าเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น ฝั่งเจ้ามือได้รับไพ่เลข 5 จำนวน 2 ใบ อัตราการจ่ายเงินรางวัล 1 : 11 เท่าของยอดเดิมพัน

ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันไพ่คู่ของเจ้ามือ 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 1,200 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

  • ลงเดิมพันตำแหน่ง Perfect Pair คือการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝั่งจะได้ไพ่คู่ อัตราการจ่ายเงินรางวัล 1 : 25 เท่าของยอดเดิมพัน

ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพัน Perfect Pair 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 2,600 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

  • ลงเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ฝั่งใดก็ได้ คือการเดิมพันว่าไพ่ของฝั่งใดฝั่งหนึ่งจะออกเป็นไพ่คู่ อัตราการจ่ายเงินรางวัล 5 เท่าของยอดเดิมพัน

ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันไพ่คู่ฝั่งใดก็ได้ 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 600 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

  • ลงเดิมพันตำแหน่งต่ำ คือการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะไม่ได้จั่วไพ่เพิ่มเลย อัตราการจ่ายเงินรางวัล 1.5 เท่าของยอดเดิมพัน

ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันต่ำ 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 250 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

  • ลงเดิมพันตำแหน่งสูง คือการเดิมพันว่าจะมีฝั่งใดฝั่งหนึ่งจะเปิดไพ่ใบที่ 3 อัตราการจ่ายเงินรางวัล 0.54 เท่าของยอดเดิมพัน

ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันสูง100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 154 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

  • ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 0 คือการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝั่งจะเสมอกันที่แต้ม 0 แต้ม อัตราการจ่ายเงินรางวัล 150 เท่าของยอดเดิมพัน

ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันเลข 0 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 15,100 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

  • ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 1 คือการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝั่งจะเสมอกันที่แต้ม 1 แต้ม อัตราการจ่ายเงินรางวัล 215 เท่าของยอดเดิมพัน

ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันเลข 1 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 21,600 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

  • ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 2 คือการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝั่งจะเสมอกันที่แต้ม 2 แต้ม อัตราการจ่ายเงินรางวัล 220 เท่าของยอดเดิมพัน

ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันเลข 2 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 22,100 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

  • ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 3 คือการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝั่งจะเสมอกันที่แต้ม 3 แต้ม อัตราการจ่ายเงินรางวัล 200 เท่าของยอดเดิมพัน

ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันเลข 3 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 20,100 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

  • ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 4 คือการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝั่งจะเสมอกันที่แต้ม 4 แต้ม อัตราการจ่ายเงินรางวัล 120 เท่าของยอดเดิมพัน

ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันเลข 4 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 12,100 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

  • ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 5 คือการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝั่งจะเสมอกันที่แต้ม 5 แต้ม อัตราการจ่ายเงินรางวัล 110 เท่าของยอดเดิมพัน

ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันเลข 5 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 11,100 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

  • ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 6 คือการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝั่งจะเสมอกันที่แต้ม 6 แต้ม อัตราการจ่ายเงินรางวัล 45 เท่าของยอดเดิมพัน

ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันเลข 6 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 4,600 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

  • ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 7 คือการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝั่งจะเสมอกันที่แต้ม 7 แต้ม อัตราการจ่ายเงินรางวัล 45 เท่าของยอดเดิมพัน

ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันเลข 7 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 4,600 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

  • ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 8 คือการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝั่งจะเสมอกันที่แต้ม 8 แต้ม อัตราการจ่ายเงินรางวัล 80 เท่าของยอดเดิมพัน

ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันเลข 8 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 8,100 บาท รวมเงินลงเดิมพัน

  • ลงเดิมพันตำแหน่งเลข 9 คือการเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝั่งจะเสมอกันที่แต้ม 9 แต้ม อัตราการจ่ายเงินรางวัล 80 เท่าของยอดเดิมพัน

ยกตัวอย่างเช่น : วางเดิมพันเลข 9 จำนวนเงิน 100 บาท หากชนะการเดิมพันท่านจะได้เงินรางวัลจากการชนะเดิมพันจำนวน 8,100 บาท รวมเงินลงเดิมพัน